วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ชิ้นที่ 2 สถานที่ท่องเทียวนอกจังหวัด

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 
วันนี้เรามีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของหน้าหนาวมาแนะนำให้เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่เที่ยวในช่วงฤดูนี้ได้รู้จักกัน นั่นก็คือ... อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาใหญ่"นั่นเอง
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือ "เขาใหญ่" เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอ ของ 4 จังหวัด คือ อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นป่าผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก

          ในส่วนหนึ่งของดงพญาไฟหรือดงพญาเย็นในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวางป่า เก้ง กระทิง เสือ ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม มีเนื้อที่ 1,353,471.53 ไร่ หรือ 2,165.55 ตารางกิโลเมตร (กว้างใหญ่มาก ๆ)

           ด้วยสภาพป่าที่รกทึบและได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้ที่ "เขาใหญ่" เกิดฝนตกชุกตามฤดูกาล อากาศไม่ร้อนจัดและหนาวจัดจนเกินไป จัดอยู่ในประเภทเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นที่ซู้ดดด... (ถูกต้องนะคร้าบ!!) ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ คนจะนิยมไปเที่ยวที่นี่กันมาก เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้ว บรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่ยังโรแมนติกซะด้วย... (เอาล่ะ โอกาสนี้แหละที่จะได้บอกรักคนที่เราแอบชอบมานานซักที)

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น มีด้วยกันหลายแห่ง คือ...
          "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 24 ถนนธนะรัชต์ เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ด้านอำเภอปากช่อง นักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ และประชาชนทั่วไป มักแวะไปกราบไหว้ ขอโชคลาภและขอพรอยู่เสมอ

          "แก่งหินเพิง" เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กลางแม่น้ำใสใหญ่ในเขต อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แก่งหินเพิงจะสวยงามมากที่สุดในยามน้ำหลาก ราวเดือนกรกฎาคม - พฤศจิกายน ฤดูฝนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแก่งหินเพิง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นน้ำตามแก่งต่างๆ เป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจ ยังนิยมนำการล่องแก่งแพยาง จากแก่งหินเพิงลงมายังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.9 อีกด้วย

          "น้ำตกสาริกา" ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอดๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 100 เมตร (อู้ว...) แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำขนาดย่อม ที่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และในบริเวณน้ำตกชั้นล่างก็ยังมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีทางเดินต่อไปตามธารน้ำที่ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ จนไปถึงแอ่งน้ำกว้างและโขดหินก้อนใหญ่ มองขึ้นไปจะเห็นน้ำตกสาริกาชั้นสูงที่สุด ทั้งนี้ น้ำตกสาริกาจะมีน้ำไหลเกือบทั้งตลอดปี โดยในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมาก 

  "น้ำตกเหวนรก" เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆ กันในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดูน่ากลัว (โห... น่าตื่นตาตื่นใจ)
          "น้ำตกกองแก้ว" เป็นน้ำตกเตี้ยๆ ที่เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมาก เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนลำห้วยถึง 2 สะพาน ที่สำคัญน้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 100 เมตรเท่านั้นเองค่ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับห้วยลำตะคองนั้น ถือเป็นแนวแบ่งเขต 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายกและจังหวัดนครราชสีมา  
 "น้ำตกผากล้วยไม้" เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในห้วยลำตะคองเช่นเดียวกัน มีลักษณะเป็นหน้าผาลดหลั่นกันลงมา สูงประมาณ 10 เมตร อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า ทางเดินเริ่มจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร โดยเดินเลียบไปตามห้วยลำตะคองที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่ร่มครึ้ม (เดินสบายแดดไม่ร้อน) แถมยังมีโอกาสพบนกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น นกกางเขนน้ำหลังเทา นกกะรางคอดำ นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ ฯลฯ 
   



  "น้ำตกเหวสุวัต" ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาก และเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่ว ๆ ไป (ใช่ ๆ) น้ำตกเหวสุวัตนี้อยู่สุดถนนธนะรัชต์ หรือจะเดินเท้าต่อจากน้ำตกผากล้วยไม้ไปก็ได้ ประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำ ตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่ในช่วงฤดูฝนนั้นจะมีน้ำมากและไหลแรง การลงเล่นน้ำจึงควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยค่ะ

           "น้ำตกไม้ปล้อง" เป็นน้ำตกที่มีทั้งหมด 5 ชั้น ไหลลดหลั่นกันลงมา ชั้นสูงสุดไม่เกิน 12 เมตร มีลักษณะคล้ายคลึงกับน้ำตกเหวนรกหรือเหวสุวัต การเดินทางไปยังน้ำตกแห่งนี้เริ่มต้นที่วังตะไคร้ โดยการเดินเท้าตามเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร 
  
          "น้ำตกวังเหว" เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีความกว้างประมาณ 40 - 60 เมตร ในฤดูฝนมีน้ำมากและไหลแรง อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.9 (ใสใหญ่) ประมาณ 17 กิโลเมตร อยู่ใจกลางป่าทางด้านทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การเดินทางจะต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยไปพักค้างแรมในป่าเป็นอย่างยิ่ง ตลอดเวลาการเดินทางจะพบกับพันธุ์ไม้นานาชนิด และแก่งหินที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย

          "น้ำตกเหวไทร" เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ทางใต้ถัดไปจากน้ำตกเหวสุวัต โดยห่างจากน้ำตกเหวสุวัตประมาณ 700 เมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างเต็มลำห้วย สูงประมาณ 5 เมตร ในฤดูฝนน้ำตกนี้จะไหลแรงเต็มหน้าผา สวยงามน่าชมมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปน้ำตกเหวไทรไปได้ 2 เส้นทาง คือ เดินเท้าต่อไปจากเหวสุวัตระยะทางประมาณ 700 เมตร หรือจะเดินจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ไปตามเส้นทางเดินเท้าเส้น "กองแก้ว - เหวสุวัต" ก็ได้ ระยะทางประมาณ 8.3 กิโลเมตร แถมตามสองข้างทางเดินที่ผ่านนั้น ก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สมุนไพร และเห็ดป่า (ชักอยากเห็นแล้วสิ)

          "น้ำตกเหวประทุน" เป็นน้ำตกที่อยู่ในห้วยลำตะคองอีกแห่งเหมือนกัน มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างและสูงสวยงามมาก อยู่ถัดจากน้ำตกเหวไทรประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ สามารถเดินทางจากน้ำตกเหวสุวัตไปก็ได้ หรือจะเดินจากบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ไปก็ได้ เดินตามเส้นทางเดินเท้าเส้น "กองแก้ว – เหวสุวัต" ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร
  นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกอีกมากมายที่น่าเที่ยวไม่แพ้กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกตาดมะนาว, น้ำตกตาดตาภู่, น้ำตกตาดตาคง, น้ำตกตะคร้อ, น้ำตกสลัดได, น้ำตกส้มป่อย, น้ำตกแก่งกฤษณา, น้ำตกเหวจั๊กจั่น, น้ำตกผาไทรคู่, น้ำตกผากระชาย, น้ำตกผาด่านช้าง, น้ำตกผามะนาวยักษ์, น้ำตกผากระจาย, น้ำตกผาหินขวาง, น้ำตกผารากไทร, น้ำตกผาชมพู และน้ำตกผาตะแบก อ๊ะ ๆ ไม่เพียงเท่านั้นเพราะยังมี... "จุดชมทิวทัศน์ กม.30" กิโลเมตรที่ 30 ถนนธนะรัชต์ สามารถชมทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เป็นบริเวณกว้างและสวยงามมาก ๆ

          "จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว" (ผาเดียวดาย) นับเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามน่าชม มีลักษณะคล้ายผานกเค้าที่ภูกระดึง นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูเขาร่มขวางอยู่เป็นแนวยาว และทิวทัศน์ที่สวยงามด้านจังหวัดปราจีนบุรี ตอนเช้าตรู่ก็จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เป็นดวงกลมสีแดงเหนือสันเขาร่มที่สวยงาม (ฮู้...) 
 อีกทั้งทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังได้สร้างหอดูสัตว์ขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ดูสัตว์ ที่ลงมากินดินโป่งทั้งหมด 3 แห่ง คือ หอดูสัตว์หนองผักชี, หอดูสัตว์มอสิงโต และหอดูสัตว์คลองปลากั้ง โดยหอดูสัตว์ทั้งหมดนี้จะสร้างใกล้ ๆ โป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง ซึ่งโดยมากที่เห็นจะเป็นกวาง ช้างป่ามีบ้างแต่น้อยกว่า และหากโชคดีอาจมีโอกาสได้เห็นกระทิงลงมากินดินโป่งซึ่งหาชมได้ยากมาก โดยโอกาสเห็นกระทิงนั้นจะพบที่หอดูสัตว์คลองปลากั้งมากที่สุด
           อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถือเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก บางทีขณะกำลังขับรถยนต์ไปตามถนน จะสามารถเห็นสัตว์ป่าเดินผ่านหรือออกหากินตามทุ่งหญ้า หรืออาจเห็นโขลงช้างออกหากินริมถนน ลูกช้างตัวเล็ก ๆ น่ารัก เดินยึกยัก ๆ ก็ดูเพลินตาไม่เบา สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อย ๆ และตามโอกาสอำนวย ได้แก่ เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้ ยังพบ เสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก หมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นกชนิดต่าง ๆ จำนวน 250 ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 340 ชนิด ส่วนนกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่าง ๆ แถมยังมีแมลงแปลก ๆ อีกเพียบกว่า 5,000 ชนิด (สุดยอด...!!)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน ที่นี่เขาก็มีสถานที่ให้กางเต็นท์ 2 จุดคือ ผากล้วยไม้และลำตะคอง และยังมีเครื่องนอนและอุปกรณ์พักแรมให้เช่าด้วย ส่วนค่ายพักแรมมี 3 จุด คือ ค่ายกองแก้ว ค่ายเยาวชนและค่ายสุรัสวดี เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาทำกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ขณะที่บ้านพักมี 2 จุดคือ บริเวณที่ทำการอุทยานฯและบริเวณบ้านธนะรัชต์
          สอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักได้ที่ งานบ้านพักอุทยานแห่งชาติ โทร. 02-562-0760-2 หรือ  www.dnp.go.th ด่านตรวจศาลเจ้าพ่อ (จองบ้านพัก) โทร. 0-4429-7406, 0-4429-7426 และติดต่อที่พักกางเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้ โทร. 0-1282-8594 จุดพักลำตะคอง โทร. 0-9285-9470

การเดินทาง

           อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 205 กิโลเมตร สามารถไปได้ 2 เส้นทางคือ แยกจากถนนมิตรภาพตรงกิโลเมตรที่ 56 ไปตามถนนธนะรัชต์ประมาณ 23 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งคือ จากกรุงเทพฯ - แยกหินกอง แล้วไปตามทางหลวงหมายเลข 33 (นครนายก - ปราจีนบุรี) ถึงสี่แยกเนินหอมใช้ทางหลวง 3077 ไปถึงเขาใหญ่ ทั้งนี้ เส้นทางที่สองค่อนข้างชันเหมาะที่จะใช้เป็นทางลงมากกว่าค่ะ
 
           หากโดยสารรถประจำทางจากกรุงเทพฯ ให้ลงที่อำเภอปากช่อง แล้วต่อรถสองแถวขึ้นเขาใหญ่บริเวณหน้าตลาดปากช่อง รถจะไปถึงตรงแค่ด่านเก็บเงิน ค่ารถ 15 บาท มีบริการระหว่างเวลา 6.00 - 17.00 น. จากนั้นต้องโบกรถขึ้นไปยังที่ทำการฯ หรือจะเช่ารถจากปากช่องเลยก็ได้ (เดินทางก็ง่ายแถมยังสะดวกสบายอีกด้วย)

          
... สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสุข เที่ยวเมืองไทย เที่ยวเขาใหญ่ ในวันที่อากาศเย็น ๆ นะคะ...

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0-2562-0760 หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปณ.9 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 หรือ www.dnp.go.th



ชิ้นที่ 1 สถานที่ท่องเทียวในจังหวัด

เขื่อนลำปาวเป็นเขื่อนดินซึ่งสร้างปิดกั้นลำน้ำปาว และห้วยยาง มีบริเวณเขตติดต่อระหว่างตำบลลำปาว อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี และตำบลเว่อ อำเภอยางตลาด ตามเส้นทางหมายเลข 209 ทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แยกขวามือเข้าเขื่อนลำปาวตามถนนลาดยาง 26 กิโลเมตร เป็นเขื่อนดินสูงจากท้องน้ำ 33 เมตร สันเขื่อนยาว 7.8 เมตร กว้าง 8 เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2506 สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่บ้านหนองสองห้อง ตำบลลำปาว อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำแฝดทางด้านเหนือเขื่อน จึงได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสอง เก็บน้ำได้ 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้แก่ หาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน


กระท่อมร้านอาหารแบบพื้นบ้าน ที่จริงแล้วเขื่อนลำปาวมีชื่อเสียงที่มีหาดทรายขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเขื่อลำปาวมักไปพักผ่อนกันที่นั่น แต่เราขับเข้ามาจอดที่นี่เพื่อพักกินข้าวกัน ตรงนี้เป็นบริเวณที่อยู่หลังของตัวเขื่อน มีกระท่อมเล็กๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวผ่านมาที่เขื่อนลำปาวนี้หลายคนในแต่ละวัน
ลานจอดรถร้านอาหาร การทำลานจอดรถแบบเรียบง่ายแบบนี้จะมีอยู่ทุกร้าน






กระท่อมเรียงราย ณ ลำปาว 





ในลำธารหลังเขื่อนลำปาว ดูๆ ไปทั้งกระท่อมและลำธารก็เหมือนกับเขื่อนคลองท่าด่านมากเลยครับ มีคนมาเล่นน้ำ กินข้าวกัน ลักษณะของกระท่อมที่เรียงกันไปบนฝั่งเหมือนกันหมด




กระท่อมเรียงลำดับตามตลิ่ง แบบนี้ก้มีครับ ร้านไหนที่ได้ทำเลดีมีตลิ่งลงไปก็สร้างเรียงลงไป




ลอดสะพานลำปาว การเดินทางสู่เขื่อนลำปาว มาตามเส้นทางหมายเลข 209 ทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แยกขวามือเข้าเขื่อนลำปาวตามถนนลาดยาง 26 กิโลเมตร เข้ามาจะเจอทางแยกถ้าเลี้ยวขวาไปค่ายลูกเสือ และสวนสะออน(ดูรูปในสวนสะออนต่อนะครับ) ขับตรงไปก็จะเป็นด้านหลังตัวเขื่อนครับ